วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การปลูกมะม่วง

                                                   การปลูกม่วงให้ได้ผลผลิตดีมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงดังต่อไปนี้1. ดิน            มะม่วงเป็นพืชที่สามารถปรับตัวเข้ากับดินประเภทต่างๆ ได้ดีกว่าไม้ผลชนิดอื่นๆ แต่ดินนั้นต้องเป็นดินที่หน้าดินลึก ระบายน้ำได้ดีและเป็นดินร่วน จนถึงดินเลวที่มีแต่หิน กรวด ทราย ในแหล่งปลูกบางแห่งที่มีระดับน้ำใต้ดินสูงมากมะม่วงก็สามารถติดผลได้ดี            ความลึกของหน้าดิน และระดับน้ำในดินจะเป็นสิ่งที่บังคับการเจริญเติบโตของรากและต้นมะม่วง ถ้าระดับความลึกของหน้าดินน้อย มีดินดานอยู่ข้างล่าง หรือดินปลูกมีระดับน้ำใต้ดินตื้น รากมะม่วงหยั่งลึกลงในดินไม่ได้ ทำให้ต้นไม่โตเท่าที่ควร โคนล้มได้ง่าย ส่วนดินที่มีระดับน้ำใต้ดินลึกๆ ในฤดูแล้งมะม่วงจะเจริญได้ดี เพราะมะม่วงสามารถหยั่งรากไปในดินลึก ๆ เพื่อหาน้ำได้แต่ต้องเป็นมะม่วงที่ปลูกจากเมล็ดหรือกิ่งทาบไม่เหมาะสำหรับมะม่วงกิ่งตอน           ความเป็นกรดเป็นด่างเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ดินที่มีหินปูนมากจะทำให้มะม่วงโตช้า ส่วนในดินที่เป็นด่างจัดจะทำให้ต้นอ่อนตายง่าย           ดินที่มะม่วงขึ้นได้ดีที่สุด เจริญงอกงามและได้ผลเร็ว คือ ดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุพอสมควร มีหน้าดินลึกอย่างน้อย 2 เมตร มีความอุดมสมบูณ์สูง มีธาตุอาหารของพืชเพียงพอ มีความเป็นกรด-ด่าง 5.5-7.5 มีการระบายน้ำดี และมีระดับน้ำใต้ดิน ต่ำกว่า 1.8 เมตร
2. น้ำ           การให้น้ำมะม่วงควรคำนึงถึง การกระจายของราก อายุของต้น โครงสร้างของดิน ความต้องการใช้น้ำของมะม่วงในระยะต่างๆ และสภาพดินฟ้าอากาศเข้ามาพิจารณาด้วย มะม่วงที่อายุยังน้อยหรือยังไม่ติดผลต้องการน้ำน้อยกว่ามะม่วงอายุมากหรือติดผลแล้ว เนื่องจากมะม่วงอายุน้อยนั้นรากยังพัฒนาไม่เต็มที่ รากจึงดูดน้ำได้น้อยกว่ามะม่วงอายุมาก           ในแหล่งที่มีระบบน้ำใต้ดินอยู่สูง จำเป็นต้องยกร่องให้สูงขึ้น และควรมีแหล่งน้ำที่ดีพอที่จะเก็บกักน้ำไว้ในช่วงที่จำเป็น เช่น ในช่วงที่มะม่วงออกดอกและติดผล เป็นต้น
3. อุณหภูมิ          ปกติมะม่วงชอบอากาศร้อนและทนอากาศร้อนและแห้งแล้งได้ดี ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงและต่ำแตกต่างกันไป ทำให้มะม่วงมีการออกดอกและผลแตกต่างกันออกไป เช่น มะม่วงที่ปลูกแถบภาคกลางตอนล่าง ในจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร ราชบุรี เพชรบุรี จะเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนมีนาคม ในขณะที่มะม่วงที่ปลูกแถบภาคเหนือตอนบนในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่อนสอน จะเก็บเกี่ยวปลายเดือนพฤษภาคม           ในบางฤดูหากมีเมฆหมอกมากจะทำให้ผลร่วง ถ้ามีน้ำค้างมาก หมอกหนา จะทำให้ดอกร่วง ผลเสียหาย เชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดี เข้าทำลายผลมะม่วงได้มากขึ้น ในมะม่วงที่ติดผลแล้วจะทำให้ผลร่วง บริเวณที่มีลมพัดแรงอาจจะต้องปลูกต้นไม้บังกระแสลมไว้ด้วย
4. ฤดูกาลปลูก          มะม่วงสามารถปลูกได้ทุกๆ ฤดูกาล แต่ถ้าปลูกบริเวณป่าเขา ไม่มีแหล่งน้ำ ก็จำเป็นต้องปลูกต้นหรือกลางฤดูฝน ถ้าปลูกในบริเวณที่มีแหล่งน้ำควรปลูกในฤดูแล้ง เพราะจะช่วยให้ทำงานสะดวกและควบคุมปริมาณน้ำได้ ในฤดูแล้งมะม่วงจะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าฤดูอื่น การปลูกมะม่วงฤดูฝนทำให้ควบคุมปริมาณน้ำได้ลำบาก เพราะถ้ามีน้ำขังในหลุม หรือระดับน้ำใต้ดินมีมากเกินไป มะม่วงอาจจะตายได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น